10 อาการปวดฟัน สัญญานเตือนปัญหาฟัน และวิธีบรรเทา

ฟันคุด เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ใหญ่หลายท่าน ซึ่งเกิดจากฟันกรามซี่สุดท้ายขึ้นในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม หรือมีพื้นที่ในช่องปากไม่เพียงพอ ส่งผลให้ฟันซี่นั้นดันตัวอยู่ใต้เหงือกหรือเอียงเบียดฟันข้างเคียง ทำให้เกิดอาการปวดฟันคุดอย่างต่อเนื่องจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ปวดขณะเคี้ยวอาหาร นอนหลับไม่สนิท รวมถึงเหงือกบวมแดงและมีการอักเสบตามมา การรับรู้และการรักษาอย่างทันท่วงทีสามารถช่วยลดความรุนแรงและป้องกันปัญหาที่ร้ายแรงในอนาคตได้. ปวดฟัน ตั้งแต่เนิ่นๆ จะเป็นเรื่องดีไม่น้อยวันนี้ทางเราจะมาแนะนำวีธีรักษาอาการปวดเบื้องต้นให้ทุกคนทราบ

 10 อาการปวดฟันที่เป็นสัญญานเตือนเกิดฟันคุด

อาการปวดที่เป็นสัญญาณเตือนว่าอาจมีฟันคุด สามารถแบ่งได้เป็นหลายลักษณะ ดังนี้:

1. อาการปวดบริเวณฟันกรามหลังสุด

อาการปวดฟันคุดมักเริ่มจากการรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายบริเวณฟันกรามด้านหลังสุด ซึ่งฟันคุดมักเกิดขึ้นในตำแหน่งนี้ เมื่อฟันกรามหลังสุดพยายามดันขึ้นมาจากกระดูกขากรรไกร และมีพื้นที่ไม่เพียงพอ ฟันจึงติดอยู่ใต้เหงือกหรือกระดูก ทำให้เกิดการอักเสบและปวดบริเวณนั้น

2. เหงือกบวมและอักเสบ

ฟันคุดที่งอกขึ้นมาในพื้นที่จำกัดจะทำให้เนื้อเยื่อเหงือกถูกดันจนเกิดการบวมและอักเสบ เหงือกอาจมีลักษณะบวม แดง และรู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัส หากสังเกตพบว่าเหงือกบริเวณฟันกรามด้านหลังมีการบวมมากกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณว่าฟันคุดกำลังดันขึ้นมาหรือฟันคุดอาจชนกับฟันข้างเคียง

3. ปวดร้าวไปถึงขากรรไกรและใบหน้า

การที่ฟันคุดดันกระดูกหรือฟันข้างเคียง สามารถทำให้เกิดอาการปวดร้าวไปถึงขากรรไกรและใบหน้าได้ อาการปวดนี้มักจะรุนแรงและส่งผลให้เกิดความรู้สึกไม่สบายในบริเวณขากรรไกรหรืออาจรู้สึกปวดร้าวไปถึงบริเวณหูหรือลำคอได้เช่นกัน

4. มีอาการปวดศีรษะ

บางครั้ง การมีฟันคุดสามารถทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ เนื่องจากการกดทับของฟันคุดที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อขากรรไกร และระบบประสาทบริเวณนั้น การปวดศีรษะที่เกิดจากฟันคุดมักเป็นลักษณะปวดร้าวบริเวณขมับหรือหน้าผาก

5. เจ็บและรู้สึกแสบในเหงือกหรือฟัน

อาการเจ็บปวดและแสบเหงือกหรือฟัน เป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่ามีฟันคุดอยู่ใต้เหงือกหรือเนื้อเยื่อ ฟันคุดที่ดันขึ้นมาจะสร้างแรงกดดันต่อเหงือกและเนื้อเยื่อรอบๆ ทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บและแสบได้

6. เกิดการติดเชื้อหรือมีหนองในเหงือก

ฟันคุดที่ไม่สามารถงอกขึ้นมาได้เต็มที่ มักจะทำให้เกิดการสะสมของเศษอาหารและแบคทีเรียในบริเวณนั้น ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อในเหงือก ทำให้เหงือกบวม แดง และมีหนอง หากมีการติดเชื้อ อาจสังเกตเห็นว่ามีกลิ่นปากรุนแรงและรสชาติไม่พึงประสงค์ในช่องปาก ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ควรพบแพทย์ทันที

7. การเคี้ยวหรือการกัดอาหารทำได้ยากขึ้น

การมีฟันคุดอาจทำให้รู้สึกปวดเมื่อเคี้ยวหรือกัดอาหาร เนื่องจากฟันคุดที่งอกออกมาจะก่อให้เกิดการเจ็บและการระคายเคืองในบริเวณนั้น ซึ่งอาจทำให้การเคี้ยวอาหารเป็นไปได้อย่างยากลำบาก หรือในบางกรณีอาจทำให้เกิดการกัดเหงือกตนเองได้

8. ฟันข้างเคียงรู้สึกเจ็บและโยก

เมื่อฟันคุดดันหรือชนกับฟันข้างเคียง จะทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บในฟันข้างเคียง และอาจรู้สึกว่าฟันข้างเคียงมีการเคลื่อนตัวหรือโยกได้เล็กน้อย เนื่องจากแรงกดจากฟันคุดที่ส่งผลต่อรากฟันซี่อื่น หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจทำให้ฟันข้างเคียงได้รับความเสียหายถาวรได้

9. มีกลิ่นปากและรสชาติไม่พึงประสงค์

ฟันคุดที่ถูกคลุมอยู่ใต้เหงือกบางส่วนหรือทั้งหมด มักจะเป็นจุดที่เกิดการสะสมของแบคทีเรียและเศษอาหาร ซึ่งสามารถก่อให้เกิดกลิ่นปากและรสชาติไม่พึงประสงค์ได้ นอกจากนี้ การอักเสบหรือการติดเชื้อในบริเวณฟันคุดอาจทำให้เกิดหนองและมีกลิ่นปากรุนแรงขึ้น

10. อาการปวดเกิดขึ้นแบบเป็นๆ หายๆ

ฟันคุดมักก่อให้เกิดอาการปวดที่มีลักษณะเป็นๆ หายๆ ซึ่งอาจเกิดขึ้นเมื่อฟันคุดพยายามดันขึ้นมาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แล้วอาการจะทุเลาลงเมื่อฟันหยุดดัน แต่หากฟันคุดยังคงกดทับหรือชนกับฟันข้างเคียง อาการปวดจะกลับมาอีกครั้งจนกว่าจะได้รับการรักษา

ถอนฟันคุดหมดปัญหาอาการปวดฟันคุด

ประโยชน์ของการถอนฟันคุดมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการลดความเจ็บปวดและการอักเสบที่เกิดจากการดันของฟันคุดต่อเหงือกหรือฟันข้างเคียง ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การถอนฟันคุดยังช่วยป้องกันการติดเชื้อในช่องปาก เนื่องจากฟันคุดที่อยู่ใต้เหงือกมักเป็นจุดสะสมของแบคทีเรียและเศษอาหาร การขจัดฟันคุดจึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อได้อย่างดี อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดถุงน้ำหรือซีสต์บริเวณกระดูกขากรรไกร ที่อาจทำลายเนื้อเยื่อกระดูกและฟันซี่ข้างเคียงได้ การถอนฟันคุดยังสามารถป้องกันไม่ให้ฟันข้างเคียงเกิดการเบียดเสียดหรือเคลื่อนตัว ซึ่งส่งผลให้ฟันเรียงตัวผิดปกติ การถอนฟันคุดช่วยให้สุขภาพช่องปากโดยรวมดีขึ้น ทำให้ฟื้นฟูสุขภาพเหงือกและฟันได้เร็วขึ้น ทั้งยังลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากอื่นๆ ในอนาคต

บทความที่เกี่ยวข้อง: ก่อน-หลังผ่าตัดถอน ฟันคุด ควรเตรียมตัวอย่างไร

วิธีบรรเทาอาการปวดฟันคุด ก่อนถอนฟันคุด

ใช้ยาบรรเทาอาการปวดฟันคุด

การใช้ยาบรรเทาอาการปวดสามารถช่วยลดความเจ็บปวดและบรรเทาอาการอักเสบได้ชั่วคราว ซึ่งมีทั้งยาสามัญที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา และยาที่ต้องได้รับการสั่งจากแพทย์ ทั้งนี้ควรเลือกใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด

ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen)

ยานี้ช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดฟันได้ดี โดยสามารถรับประทานได้ขนาด 200-400 มิลลิกรัม ทุกๆ 4-6 ชั่วโมง ทั้งนี้ไม่ควรใช้เกิน 1200 มิลลิกรัมต่อวันหากไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์

นาโพรเซน (Naproxen)

เป็นยาแก้ปวดที่ออกฤทธิ์ยาวนานกว่าไอบูโพรเฟน สามารถรับประทานได้ทุกๆ 8-12 ชั่วโมง โดยขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 250-500 มิลลิกรัม ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการปวด

ยาพาราเซตามอล (Paracetamol)

ยาพาราเซตามอลเป็นยาที่ใช้บรรเทาอาการปวดได้อย่างปลอดภัย และสามารถใช้ได้ในกรณีที่มีอาการปวดฟันคุด ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดเล็กน้อยหรือปวดปานกลาง โดยพาราเซตามอลช่วยลดความเจ็บปวดและลดไข้ได้ แต่อาจไม่ช่วยในกรณีที่มีอาการอักเสบหรือบวมของเหงือก

ยาไดโคลฟีแนค (Diclofenac)

ยาไดโคลฟีแนคเป็นอีกหนึ่งยาในกลุ่ม NSAIDs ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้ดี มักใช้ในกรณีที่มีอาการปวดฟันคุดรุนแรงหรือมีการอักเสบอย่างชัดเจน ยานี้สามารถช่วยลดความเจ็บปวดและบวมของเหงือกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อควรระวัง

  • หลีกเลี่ยงการใช้ยากลุ่ม NSAIDs หากมีประวัติแพ้ยาหรือมีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น แผลในกระเพาะอาหารหรือโรคกระเพาะ
  • ควรรับประทานยาพร้อมอาหารหรือนมเพื่อลดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร

*การใช้ยาแก้ปวดสามารถช่วยบรรเทาอาการ ปวดฟัน ได้ชั่วคราว

งดอาหารกระตุ้นการปวดฟัน

การหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่อาจทำให้เกิดหรือเพิ่มความรุนแรงของ อาการปวดฟัน เป็นสิ่งสำคัญในช่วงที่ฟันอ่อนไหวหรือมีปัญหาสุขภาพช่องปาก. การรับประทานอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยลดความรู้สึกไม่สบายและสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูสภาพฟัน. นี่คือรายการอาหารและเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยงและแนะนำในช่วงที่มี อาการ ปวดฟัน

อาหารและเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยง

  • อาหารที่มีน้ำตาลสูง: ขนมหวาน, ช็อคโกแลต, ขนมปังหวาน และเครื่องดื่มหวาน สามารถเพิ่มความเสี่ยงของฟันผุและกระตุ้นอาการปวด
  • อาหารที่มีความแข็ง: ของกรอบ อย่างเช่น ถั่ว, ขนมกรุบกรอบ อาจทำให้ฟันที่เปราะบางหรือมีปัญหาแตกหรือหักได้
  • อาหารร้อนหรือเย็นจัด: เครื่องดื่มหรืออาหารที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำมาก อาจทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดในฟันที่มีความอ่อนไหว
  • อาหารที่มีกรดสูง: ผลไม้บางชนิด เช่น ส้มและมะเขือเทศ, และเครื่องดื่มเช่น กาแฟและไวน์ สามารถทำให้ฟันที่มีการผุกร่อนเจ็บปวดมากขึ้น

อาหารและเครื่องดื่มที่แนะนำ

  • อาหารอุ่นและนุ่ม: ซุป, โจ๊ก, หรือพาสต้าที่ไม่มีรสจัด สามารถรับประทานได้ง่ายและไม่ทำให้ฟันเจ็บปวด
  • ผักและผลไม้นุ่ม: อะโวคาโด, กล้วย หรือแครอทต้ม ที่มีความอ่อนนุ่มและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
  • โปรตีนที่ปรุงสุกอย่างเต็มที่: เช่น ปลา, ไก่ต้มหรือนึ่ง

หากมีอาการเหงือกบวม หรือเป็นไข้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที

อาการเหงือกบวมและการมีไข้เป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากอาจเป็นตัวบ่งชี้ถึงการติดเชื้อหรือปัญหาสุขภาพช่องปากที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ภาวะเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับหลายสาเหตุ รวมถึง:

  • โรคเหงือก: การอักเสบของเหงือกที่อาจเกิดจากพลัคและหินปูนที่สะสมไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างถูกต้อง
  • ฟันคุดที่ฝังอยู่: ฟันคุดที่ไม่สามารถงอกออกมาได้อย่างสมบูรณ์อาจทำให้เกิดการติดเชื้อและบวมรอบๆ พื้นที่
  • การติดเชื้อที่รากฟัน: การติดเชื้อที่เนื้อฟันหรือรากฟันสามารถนำไปสู่การมีไข้และอาการบวมได้

การเข้ารับการรักษาที่เหมาะสมและตรงเวลาเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากที่อาจนำไปสู่ภาวะที่รุนแรงและยากต่อการรักษา

ข้อสรุป อาการปวดฟัน

อาการปวดฟันเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพช่องปากที่ไม่ควรมองข้าม โดยสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ การติดเชื้อ หรือการเกิดฟันคุด อาการปวดฟันอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ทำให้เกิดความไม่สบาย ความเครียด และความยากลำบากในการเคี้ยวอาหารหรือการพูด หากมีอาการปวดฟันที่ไม่ทุเลา ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาตามสาเหตุอย่างถูกต้อง การดูแลรักษาช่องปากอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการทำความสะอาดฟันอย่างถูกวิธี การใช้ไหมขัดฟัน และการตรวจสุขภาพฟันประจำปี เป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดเพื่อลดโอกาสการเกิดอาการปวดฟันในอนาคต

การรับมือกับอาการปวดฟันคุด ผ่านการใช้ยาแก้ปวด, หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นการปวด, จำเป็นต้องได้รับการ ปรึกษาทันตแพทย์ รวมทั้งการดูแลสุขภาพช่องปากเป็นประจำเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาฟันในอนาคต.

แชร์บทความ
Narongsak Chiwimahannob
Narongsak Chiwimahannob
Articles: 15