ปัญหากวนใจเรื่อง ฟันห่าง ฟันเก ทำให้หลายๆคนเสียความมั่นใจ แต่ปัจจุบันสามารถรักษาได้ง่ายๆ ด้วยการรักษาแบบ จัดฟันใส invisalign และ วีเนียร์ ( veneer ) กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบันใครที่กำลังกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้ลองมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาและวิธีรักษากันเถอะ
ฟันห่าง “Diastema”
ภาษาในทางการแพทย์ คือฟันที่มีช่องว่างระหว่างกันทีมีขนาดใหญ่กว่าปกติ ฟันห่าง นั้นสามารถเกิดที่ตำแหน่งใดก็ได้ในช่องปากของเรา แต่โดยส่วนมากแล้วจะเกิดขึ้นตรงฟันหน้าสองซี่บน ซึ่ง ฟันห่างนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ ตัวอย่างเช่น การที่กระดุกขากรรไกร ใหญ่ขึ้นตามวัย ซึ่งอาจจะไม่สัมพันธ์ตามอายุ ,ขนาดของฟันเล็กเกินเมื่อเทียบกับหระดุกขากรรไกร ,อุบัติเหตุ หรือฟันหลอ ฟันห่างไม่ได้เป็นปัญหาด้านสุขภาพเสมอไป แต่โดยส่วนใหญ่มักจะทำให้เสียความมั่นใจ
ฟันเก “crooked teeth”
เกิดจากที่ฟันของเราไม่ได้อยู่ในสภาพที่เรียงสวยงาม แต่เกิดจากการซ้อนหรือเบียดทับกัน สาเหตุส่วนใหญ่มาจาก กรรมพันธุ์,หรือฟันอาจจะหลอเร็วเกินไป, การดูดนิ้วหรือใช้ขวดนมนานๆในช่วงเด็กก็มีส่วนทำให้เกิดฟันเกได้เหมือนกัน ปัญหาของฟันเกมักจะทำให้ เคี้ยวหรือทำความสะอาดลำบาก
การรักษาฟันห่าง (Diastema) และ ฟันเก สามารถทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของการห่างของฟัน รวมถึงความต้องการส่วนบุคคลและงบประมาณ นี่คือวิธีการรักษาที่พบบ่อย
การจัดฟัน
การจัดฟันเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสำหรับการรักษาฟันห่าง เนื่องจากสามารถแก้ไขตำแหน่งของฟันให้เข้าที่และลดช่องว่างได้ มีหลายประเภทของเครื่องมือจัดฟัน เช่น จัดฟันแบบมีสาย (Metal Braces), จัดฟันแบบใส (Invisalign) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดูเป็นธรรมชาติและไม่เห็นเครื่องมือจัดฟันชัดเจน
ประโยชน์ของการจัดฟัน
– ปรับปรุงรูปลักษณ์: ลดช่องว่างระหว่างฟัน ทำให้ยิ้มของคุณดูดีขึ้น
– สุขภาพช่องปาก: ช่วยให้ทำความสะอาดฟันได้ง่ายขึ้น ลดโอกาสเกิดโรคเหงือกและฟันผุ
– การทำงานของฟัน: ปรับปรุงการกัดและการเคี้ยว ลดความเสี่ยงของการสึกหรอฟันผิดปกติ
วิธีการจัดฟัน
– จัดฟันแบบมีสาย (Traditional Braces): ใช้สายเหล็กและเบรกเกตที่ติดอยู่บนฟัน เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาฟันห่างและปัญหาการจัดฟันอื่นๆ ที่ซับซ้อน
– จัดฟันแบบใส (Clear Aligners อย่าง Invisalign): ใช้แผ่นพลาสติกใสสำหรับเคลื่อนฟัน มีความโปร่งใสและสามารถถอดออกได้ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ใหญ่และวัยรุ่นที่ต้องการตัวเลือกที่ไม่เด่นชัด
ระยะเวลาการรักษา : ระยะเวลาการจัดฟันขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหา โดยปกติอาจใช้เวลาตั้งแต่ 1 ถึง 3 ปี ผู้ป่วยจะต้องไปพบทันตแพทย์เพื่อปรับเครื่องมือจัดฟันทุกๆ 4-6 สัปดาห์
การดูแลรักษา การทำความสะอาด: การจัดฟันต้องการการดูแลและการทำความสะอาดอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันการสะสมของจุลินทรีย์และอาหาร
ทำวีเนียร์ ( veneer )
วีเนียร์เป็นวิธีการรักษาในทันตกรรมความงามที่ช่วยปรับปรุงรูปลักษณ์ของฟันโดยการติดตั้งแผ่นเคลือบบางๆ ทำจากเซรามิคหรือพอร์ซเลนบนผิวหน้าของฟัน มีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น ฟันห่าง, ฟันเสียสี, ฟันแตกหรือหัก, หรือฟันที่มีรูปร่างไม่สวยงาม นี่คือรายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับวีเนียร์:
ประโยชน์ของวีเนียร์
– ปรับปรุงรูปลักษณ์: ช่วยให้ฟันดูขาวขึ้น, ปรับปรุงรูปร่าง, ขนาด, และความยาวของฟันให้เข้ากับใบหน้าได้ดีขึ้น
– ความทนทาน: วีเนียร์ทนต่อจุดเหลืองและคราบได้ดี เมื่อดูแลรักษาอย่างถูกต้องสามารถใช้งานได้นานหลายปี
– การแทรกแซงน้อย: ต้องเจียระไนฟันเพียงเล็กน้อยก่อนติดตั้งวีเนียร์ ทำให้เป็นการรักษาที่ไม่รุนแรงมากนัก
กระบวนการติดตั้ง
- การประเมินและวางแผน: ทันตแพทย์จะประเมินสภาพฟันและวางแผนการรักษา อาจรวมถึงการถ่ายรูปฟันและทำโมเดล
- การเตรียมฟัน: ทันตแพทย์จะเจียระไนผิวหน้าของฟันเล็กน้อยเพื่อให้พื้นที่สำหรับวีเนียร์
- การทำแม่พิมพ์: ทำแม่พิมพ์ฟันเพื่อสร้างวีเนียร์ที่เข้ากับฟันของผู้ป่วยอย่างแม่นยำ
- การติดตั้งวีเนียร์: หลังจากวีเนียร์ถูกสร้างขึ้น เกลือกเคลือบวีเนียร์จะถูกติดตั้งบนฟันด้วยวัสดุยึดเฉพาะ
การดูแลรักษา การดูแลประจำวัน: แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างอ่อนโยนเพื่อรักษาสุขภาพช่องปาก
การเติมเต็มด้วยวัสดุคอมโพสิต (Dental Bonding)
การเติมเต็มด้วยวัสดุคอมโพสิตหรือการทำ Dental Bonding เป็นวิธีการรักษาในทันตกรรมความงามที่ใช้วัสดุคอมโพสิตเพื่อแก้ไขปัญหาเล็กน้อยถึงปานกลางของฟัน เช่น ฟันห่าง, ฟันแตกหรือหัก, ฟันที่มีรูปร่างไม่สม่ำเสมอ, หรือเปลี่ยนสี การ Bonding เป็นวิธีที่ไม่รุนแรง สามารถทำได้ในคลินิกทันตกรรมโดยไม่ต้องใช้การส่งแลปและมักจะเสร็จสิ้นภายในการเยี่ยมครั้งเดียว
ประโยชน์ของการเติมเต็มด้วยวัสดุคอมโพสิต
– ความรวดเร็วและความสะดวก: การรักษาสามารถทำได้ในเซสชันเดียว โดยไม่ต้องใช้การส่งงานแลปหรือรอวีเนียร์
– ไม่ต้องเจียระไนฟันมาก: การเติมเต็มด้วยวัสดุคอมโพสิตต้องการการเจียระไนฟันน้อยมากหรือไม่ต้องเลย ทำให้เป็นวิธีที่อนุรักษ์ฟันได้ดี
– ปรับสีได้: วัสดุคอมโพสิตสามารถปรับสีให้ตรงกับฟันธรรมชาติได้ เพื่อให้ได้ลักษณะที่เป็นธรรมชาติที่สุด
กระบวนการการทำ Dental Bonding
- การเตรียมฟัน: ทันตแพทย์อาจทำความสะอาดพื้นที่ที่จะทำการรักษาและเจียระไนผิวฟันเล็กน้อยเพื่อช่วยให้วัสดุยึดเกาะได้ดีขึ้น
- การเลือกสี: ทันตแพทย์จะเลือกสีของวัสดุคอมโพสิตที่ตรงกับสีฟันธรรมชาติของคุณ
- การใช้วัสดุคอมโพสิต: วัสดุคอมโพสิตจะถูกนำมาใช้บนฟันและรูปร่างให้เข้ากับฟัน จากนั้นจะใช้แสงอัลตราไวโอเลตเพื่อให้วัสดุแข็งตัว
- การขัดและตกแต่ง: หลังจากวัสดุคอมโพสิตแข็งตัวแล้ว
คราวน์และบริดจ์ ( Crowns & Bridges)
คราวน์และบริดจ์เป็นตัวเลือกการรักษาในทันตกรรมที่ใช้สำหรับแก้ไขปัญหาฟันห่าง, ฟันเสียหาย, หรือฟันที่ขาดหายไป ทั้งคราวน์และบริดจ์มีหน้าที่ในการฟื้นฟูรูปลักษณ์และการทำงานของฟันที่ไม่สมบูรณ์
คราวน์ (Dental Crowns)
คราวน์หรือ “หมวกฟัน” เป็นการรักษาที่ใช้เคลือบหรือครอบฟันที่เสียหาย คราวน์สามารถทำจากวัสดุต่างๆ ได้แก่ เซรามิค, โลหะผสม, หรือพอร์ซเลนเคลือบโลหะ เพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์, รูปร่าง, และความแข็งแรงของฟัน
ประโยชน์ของคราวน์:
– ฟื้นฟูฟันที่แตกหักหรือเสียหาย
– ปรับปรุงรูปลักษณ์ของฟันที่มีรูปร่างไม่ดีหรือเปลี่ยนสี
– ครอบคลุมและปกป้องฟันหลังการรักษารากฟัน
บริดจ์ (Bridges)
บริดจ์เป็นการรักษาที่ใช้เติมช่องว่างจากฟันที่ขาดหายไป โดยใช้ฟันปลอมติดอยู่ระหว่างคราวน์ที่ครอบฟันธรรมชาติหรือฟันปลูกเทียมที่อยู่ติดกัน บริดจ์ช่วยฟื้นฟูรูปลักษณ์และการทำงานของฟัน และป้องกันการเคลื่อนย้ายของฟันที่เหลือ
ประโยชน์ของบริดจ์:
– ฟื้นฟูรูปลักษณ์และการทำงานของฟัน
– ป้องกันฟันที่เหลือจากการเคลื่อนย้าย
– กระจายแรงเคี้ยวอย่างเท่าเทียมให้กับทั้งช่องปาก
กระบวนการติดตั้ง
การเตรียมฟัน: ทันตแพทย์จะเจียระไนฟันที่จะครอบคราวน์หรือฟันที่จะใช้เป็นฐานสำหรับบริดจ์
การทำแม่พิมพ์: ทำแม่พิมพ์ฟันเพื่อสร้างคราวน์หรือบริดจ์ที่เข้ากับฟันของคุณ
การถอนฟันและปลูกฟันเทียม
การถอนฟันและปลูกฟันเทียมเป็นวิธีการรักษาที่ใช้สำหรับสถานการณ์ที่ฟันห่างเกิดจากฟันที่ขาดหายไปหรือฟันที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้ การปลูกฟันเทียมเป็นตัวเลือกการรักษายอดนิยมเพราะมอบรูปลักษณ์และการทำงานที่ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติที่สุด
การถอนฟัน
การถอนฟันเป็นกระบวนการหนึ่งทางทันตกรรม ด้วยการใช้เครื่องมือถอนฟันออกจากกระดูกขากรรไกร การถอนฟันนั้นต้องมีสาเหตุที่เพียงพอเช่น
-ฟันผุรุนแรง :ไม่สามารถทำการซ่อมแซมด้วยการอุดหรือครอบฟันได้แล้ว
-โรคเหงือก : โรคเหงือกรุนแรงจนถึงขั้นทำให้เนื้อเยื้อรอบฟันและกระดูกฟันที่รองรับถูกทำลายจนต้องถอนฟันที่ได้รับผลกระทบ
-ฟันคับแน่น : พื้นที่ในช่องปากไม่เพียงพอที่จะให้ฟันทุกซี่จัดเรียงกันอย่างเหมาะสม เกิดจากฟันเก ฟันทับซ้อนกัน
การถอนฟันนั้นแยกออกเป็น สองประเภทหลัก คือ การถอนฟันแบบง่าย และ การถอนฟันแบบผ่าตัด
ปลูกฟันเทียม
การปลูกฟันเทียมเป็นกระบวนการที่ต้องการการผ่าตัดเพื่อฝังโพสต์ไททาเนียมในกระดูกขากรรไกรเพื่อทำหน้าที่เป็นรากฟันเทียม หลังจากนั้นจะมีการติดตั้งโครงสร้างที่เรียกว่า “abutment” และฟันเทียมปลอม (โคราวน์) บนโพสต์ไททาเนียม เพื่อให้มีลักษณะและการทำงานเหมือนฟันธรรมชาติ
ประโยชน์ของการปลูกฟันเทียม:
– ฟื้นฟูการทำงานและรูปลักษณ์: ฟันเทียมมีลักษณะและการทำงานที่ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ
– ป้องกันการสูญเสียกระดูก: ช่วยลดการสูญเสียกระดูกในขากรรไกรที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการสูญเสียฟัน
– ความมั่นคงและความทนทาน: ฟันเทียมมีความมั่นคงสูงและสามารถใช้งานได้นานหลายปีหรือตลอดชีวิตด้วยการดูแลรักษาที่เหมาะสม
หลังจากการจัดฟันเสร็จสิ้น, การดูแลรักษาและการติดตามผลเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ได้รับและป้องกันการเคลื่อนย้ายของฟันกลับไปสู่ตำแหน่งเดิม นี่คือขั้นตอนและคำแนะนำสำหรับการดูแลหลังจากจัดฟัน:
ดูแลตัวเองหลังจัดฟัน
การดูแลหลังจากจัดฟันเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คุณรักษายิ้มสวยและสุขภาพช่องปากที่ดีได้อย่างยั่งยืน อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์และรักษาความสะอาดช่องปากอย่างเคร่งครัด
- การใส่รีเทนเนอร์
– รีเทนเนอร์คืออุปกรณ์ที่ใช้รักษาตำแหน่งของฟัน หลังจากถอดเครื่องมือจัดฟันออก มีทั้งแบบถอดได้และแบบติดแน่น (ถาวร) ซึ่งทันตแพทย์จะแนะนำ
– การใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอตามที่ทันตแพทย์แนะนำ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันฟันเคลื่อนที่
- การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ
– การทำความสะอาดรีเทนเนอร์ ด้วยน้ำสะอาดและแปรงสีฟันอ่อน ๆ ทุกวัน
– การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟัน อย่างถูกวิธีเพื่อรักษาสุขภาพช่องปากและป้องกันโรคเหงือก
- ตรวจสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ
– เยี่ยมชมทันตแพทย์ สำหรับการตรวจสุขภาพช่องปากและทำความสะอาดฟันเป็นประจำ
- การรับประทานอาหาร
– หลีกเลี่ยงอาหารที่แข็งหรือเหนียว ซึ่งอาจทำให้รีเทนเนอร์เสียหาย
- การติดตามผล
– เข้ารับการตรวจติดตาม ตามที่ทันตแพทย์นัดหมาย เพื่อตรวจสอบตำแหน่งของฟันและรีเทนเนอร์