ใบอนุญาตเลขที่ 20103002067

หลายคนที่มีปัญหาริมฝีปากยื่น รู้สึกว่ารูปหน้าด้านข้างดูโป่งหรือไม่สมดุล มักสงสัยว่า “แบบนี้เรียกว่าปากอูมหรือเปล่า?” และหากใช่ คำถามต่อมาคือ “จัดฟันแล้วปากจะยุบจริงไหม?” หรือ “ถ้าไม่ผ่าตัด จะเห็นผลหรือเปล่า?” ความกังวลเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะเมื่อผลลัพธ์เกี่ยวข้องกับความมั่นใจและบุคลิกภาพในระยะยาว
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักว่า “ปากอูม” คืออะไร เช็กได้อย่างไร และสามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันจริงหรือไม่ พร้อมแนะนำเทคโนโลยี Digital Smile Design ที่ช่วยวางแผนและจำลองผลลัพธ์ก่อนเริ่มการรักษา ให้คุณมั่นใจก่อนตัดสินใจได้มากขึ้น
ปากอูม คืออะไร?
ปากอูม คือ ลักษณะที่ริมฝีปากยื่นออกมามากกว่าปกติเมื่อมองจากด้านข้าง โดยเฉพาะหากริมฝีปากบนหรือล่างเลยออกจากเส้น E-Line (เส้นสมมุติที่ลากจากปลายจมูกถึงปลายคาง) ซึ่งมักทำให้ใบหน้าดูไม่สมดุล และอาจส่งผลต่อความมั่นใจในภาพรวม
สาเหตุของปากอูม
- พันธุกรรม: ฟันซ้อน ฟันยื่น หรือฟันไม่สบกัน ทำให้ริมฝีปากดูยื่นออกมา
- โครงสร้างขากรรไกร: ขากรรไกรบนหรือล่างยื่นมากกว่าปกติ
- พฤติกรรม: เช่น การดูดนิ้วหรือดุนลิ้นในวัยเด็ก อาจส่งผลให้ฟันและรูปปากผิดตำแหน่ง
ปัญหาปากอูม เช็คยังไง แบบไหนเรียกปากอูม?

ลักษณะอื่น ๆ ที่พบในคนที่มี “ปากอูม”
- มุมด้านข้างของใบหน้าดูไม่คม มีลักษณะ “มน” หรือ “กลม”
- ปิดปากแล้วรู้สึกเกร็ง หรือมีเส้นขีดที่คางเวลาเม้มปาก
- ปากดูโป่งแม้จะไม่ได้ยิ้ม
- เวลาถ่ายรูปด้านข้าง ใบหน้าดูไม่เป็นสัดส่วนระหว่างจมูก ปาก และคาง
วิธีเช็กปากอูมเบื้องต้นด้วย E-Line
E-Line หรือ Ricketts E-Line เป็นเส้นสมมุติที่ลากจากปลายจมูกถึงปลายคาง ใช้เป็นเกณฑ์เบื้องต้นในการประเมินความสมดุลของริมฝีปาก
- ริมฝีปากบน ควรอยู่ห่างจากเส้นนี้ประมาณ 2–4 มม.
- ริมฝีปากล่าง ควรอยู่ห่างจากเส้นประมาณ 1–2 มม.
📌 หากริมฝีปากเลยเส้น E-Line ออกมามากกว่าปกติ ทั้งบนและล่าง หรือดูโป่งจากมุมด้านข้าง — มีโอกาสว่า “คุณอาจมีปากอูม”
สำหรับใครที่อยากเช็ครูปหน้าของตัวเองสามารถดู วิธีเช็ค E-Line ด้วยตัวเองง่าย ๆ
วิธีแก้ไขปากอูม ด้วยการจัดฟัน ไม่ต้องศัลยกรรม?
โชคดีที่ปัจจุบันสามารถ แก้ไขปากอูมได้หลากหลายวิธี โดยวิธีที่ใช้กันบ่อยคือ การจัดฟันโลหะ, จัดฟันใส และรูปปากให้สมดุลกับโครงหน้า โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งการผ่าตัดในทุกกรณี ทั้งนี้ ความเหมาะสมของแต่ละวิธีจะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง โครงสร้างกระดูก และเป้าหมายด้านความงามของแต่ละบุคคล มาดูกันว่าตัวเลือกไหนจะเหมาะกับตัวคุณกันครับ

1. จัดฟันโลหะ
การจัดฟันแบบโลหะเป็นทางเลือกพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพสูงในการแก้ไขปัญหาปากอูมโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยเฉพาะในเคสที่ปากอูมเกิดจาก การเรียงตัวของฟันที่ยื่นออกมาผิดตำแหน่ง หรือฟันซ้อนเก ที่ทำให้ริมฝีปากดูยื่นตามโครงสร้างฟัน
เมื่อทันตแพทย์ค่อย ๆ ดึงฟันกลับเข้าตำแหน่งที่เหมาะสม ริมฝีปากที่เคยยื่นก็จะค่อย ๆ ยุบเข้า ใบหน้าดูสมดุลขึ้น และช่วยลดความอูมของปากได้อย่างเป็นธรรมชาติ
เหมาะกับเคสแบบไหน:
- ปากอูมที่เกิดจากฟันหน้าบนหรือฟันล่างยื่น
- มีฟันซ้อนเก หรือมีฟันเกิน
- ขากรรไกรไม่ได้ผิดปกติระดับที่ต้องผ่าตัด
ข้อดี:
- ช่วยให้ริมฝีปากยุบลงโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ควบคุมแรงเคลื่อนฟันได้ละเอียด เหมาะกับเคสที่ต้องการการแก้ไขหลายจุด
- เห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าและรอยยิ้มหลังการรักษา
2. จัดฟันใส Invisalign
การจัดฟันใส Invisalign เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหา ปากอูม อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องใส่เหล็กและไม่ต้องผ่าตัด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเคสที่ปากอูมเกิดจาก การเรียงตัวของฟันที่ดันริมฝีปากให้ยื่น เช่น ฟันหน้าบนคร่อมหรือฟันเอนไปด้านหน้า
ด้วยเทคโนโลยีที่สามารถวางแผนการเคลื่อนฟันแบบ 3 มิติ Invisalign จะช่วยจัดเรียงฟันให้กลับเข้าตำแหน่งที่เหมาะสม ริมฝีปากจึงค่อย ๆ ยุบเข้า โครงหน้าดูละมุนและสมดุลขึ้น โดยไม่กระทบภาพลักษณ์ระหว่างทำการรักษา
เหมาะกับเคสแบบไหน:
- ปากอูมจากฟันยื่นเล็กน้อยถึงปานกลาง
- ไม่มีปัญหาโครงกระดูกหรือขากรรไกรผิดปกติ
- ต้องการความสวยงามระหว่างรักษา (แทบมองไม่เห็นเครื่องมือ)
ข้อดี:
- เครื่องมือใส แทบมองไม่เห็น
- ถอดออกได้ ทำให้รับประทานอาหารและแปรงฟันสะดวก
- สามารถวางแผนร่วมกับ Digital Smile Design เพื่อดูผลลัพธ์ก่อนเริ่มจริงได้
3. จัดฟัน Damon
จัดฟัน Damon เป็นทางเลือกที่ทันสมัยกว่าการจัดฟันโลหะแบบดั้งเดิม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหา ปากอูม โดยไม่ต้องผ่าตัด และยังมีตัวเลือกเป็น “Damon Clear” ซึ่งเป็นแบบใส ทำให้ ดูน้อยชิ้นและแทบไม่เห็นเหล็กจัดฟัน เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาบุคลิกภาพระหว่างจัดฟัน เช่น พนักงานต้อนรับ พิธีกร ดารา หรืออาชีพที่ต้องพบปะผู้คน
ระบบนี้ใช้แบร็กเก็ตแบบไม่ต้องรัดยาง (Self-ligating) ซึ่งช่วยให้การเคลื่อนฟันเป็นไปอย่างราบรื่นและนุ่มนวล ลดแรงตึงและความเจ็บปวดได้มากกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป เมื่อฟันเรียงตัวสวย ริมฝีปากที่เคยอูมก็จะค่อย ๆ ยุบเข้า ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูละมุนและสมดุลขึ้น
เหมาะกับเคสแบบไหน:
- ปากอูมจากฟันที่เรียงตัวผิดแนวหรือดันริมฝีปากออกมา
- ฟันแน่น ฟันซ้อนเก ระดับปานกลางถึงมาก
- ผู้ที่ต้องการลดการมองเห็นเหล็กจัดฟัน เช่น อาชีพที่ต้องใช้ภาพลักษณ์ทางสังคม
ข้อดี:
- มีแบบ Damon Clear ที่ดูใสและเรียบร้อยกว่าจัดฟันโลหะทั่วไป
- ลดแรงเสียดทาน ฟันเคลื่อนตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติและเจ็บน้อย
- ลดโอกาสถอนฟันในบางกรณี และช่วยปรับรูปริมฝีปากให้สมดุลกับใบหน้า
อยากจัดฟันแก้ปัญหาปากอูม แต่กลัวไม่ได้ผลตามต้องการ?
หลายคนที่มีปัญหา ริมฝีปากอูม หรือ รูปหน้าไม่สมดุลจากด้านข้าง อยากจัดฟันเพื่อปรับรูปหน้าให้ดูละมุนขึ้น แต่ก็มักมีคำถามในใจว่า…
“จัดฟันแล้ว ปากจะยุบจริงไหม?”
“โครงหน้าจะเปลี่ยนแค่ไหน?”
“ถ้าไม่ผ่าตัด จะเห็นผลจริงหรือเปล่า?”
ซึ่งความกังวลเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะเมื่อผลลัพธ์เกี่ยวข้องกับความมั่นใจและภาพลักษณ์ในระยะยาว
Digital Smile Design ตัวช่วยวางแผนทันตกรรมจัดฟัน
Digital Smile Design (DSD) คือเทคโนโลยีวิเคราะห์รอยยิ้มและโครงหน้าแบบดิจิทัล 3 มิติ ที่ช่วยให้การจัดฟันไม่ใช่แค่การดึงฟันให้เรียงตัวสวย แต่เป็น การวางแผนออกแบบรอยยิ้มและรูปปากอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สอดคล้องกับสัดส่วนใบหน้าโดยรวม
ทำไม DSD จึงเหมาะกับผู้ที่อยากจัดฟันแก้ปากอูม?
- วิเคราะห์โครงหน้า จากภาพถ่ายและวิดีโอ เพื่อดูความสัมพันธ์ของจมูก ริมฝีปาก และคาง
- จำลองภาพก่อน–หลังจัดฟันให้เห็นว่า ปากจะยุบแค่ไหน
- ใช้ร่วมกับการจัดฟันทุกรูปแบบ เช่น จัดฟันใส Invisalign, จัดฟัน Damon, หรือ จัดฟันโลหะ
- ลดความเสี่ยงจากความคาดหวังไม่ตรงกับผลลัพธ์จริง
✨ เหมาะสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องผลลัพธ์ หรือมีความต้องการเฉพาะด้านความงามและบุคลิกภาพ
บทสรุป: แก้ไขปัญหาปากอูม โดยไม่ต้องศัลยกรรม ทำได้จริงหรือ?
การแก้ไขปัญหา ปากอูม โดยไม่ต้องผ่าตัดสามารถทำได้จริงในหลายกรณี โดยเฉพาะเมื่อปัญหานั้นเกิดจากการเรียงตัวของฟันผิดปกติ ไม่ใช่จากโครงกระดูกขากรรไกรโดยตรง วิธีที่นิยมใช้ ได้แก่ การจัดฟันโลหะ จัดฟันใส Invisalign และจัดฟัน Damon ซึ่งสามารถช่วยปรับตำแหน่งของฟันให้เหมาะสม ส่งผลให้ริมฝีปากยุบเข้า ใบหน้าดูละมุนและสมดุลมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องผลลัพธ์ เทคโนโลยี Digital Smile Design (DSD) ยังสามารถช่วยวิเคราะห์โครงหน้า วางแผนการเคลื่อนฟัน และจำลองผลลัพธ์ก่อนเริ่มการรักษาได้อีกด้วย ทำให้มั่นใจได้ว่าการจัดฟันครั้งนี้จะตรงกับเป้าหมายทั้งด้านสุขภาพฟันและความงามของใบหน้าอย่างแท้จริง