ฟันแตกปัญหาที่พบได้บ่อยในทุกช่วงวัย และหากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากอย่างรุนแรง บางกรณีสามารถรักษาได้ด้วยการอุดหรือครอบฟัน บางเคสอาจต้องถอนฟันเพื่อป้องกันการติดเชื้อ บทความนี้ เราจะอธิบายถึงสาเหตุของฟันแตกเป็นรู วิธีการรักษา รวมถึงค่าใช้จ่ายการรักษาเบื้องต้นที่ควรรู้
ฟันแตกเกิดจากอะไร
ฟันแตกเกิดจากสาเหตุหลักๆ มาจากการกัดหรือเคี้ยวอาหารที่แข็ง เช่นน้ำแข็ง ลูกอม หรือกระดูก การรับประทานอาหารร้อนจัดและเย็นจัดสลับกัน การอุดฟันขนาดใหญ่ทำให้โครงสร้างฟันอ่อนแอรวมถึงการได้รับอุบัติเหตุต่างๆ เช่น หกล้ม ฟันกระแทก อุบัติเหตุรถยนต์ หรือจากการเล่นกีฬา
อาการของฟันแตกแต่ละแบบ
1.ฟันแตกเป็นรู
ฟันแตกเป็นรูเกิดจากฟันผุที่ไม่ได้รับการรักษาจนโครงสร้างฟันอ่อนแอ เมื่อเคี้ยวหรือกัดอาหารทำให้แตกหรือเกิดรู บางกรณีอาจเริ่มจากฟันแตกร้าวแล้วมีฟันผุร่วมด้วย หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่การติดเชื้อหรือการสูญเสียฟันได้ การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรง เช่น อุดฟัน ครอบฟัน หรือรักษารากฟัน เพื่อป้องกันปัญหาที่ลุกลามต่อไป
ฟันแตกเป็นรู อาการ:
- รู้สึกไวต่อความร้อน เย็น หรือของหวาน
- เจ็บขณะเคี้ยวอาหาร หรือรู้สึกเสียวฟันอย่างต่อเนื่อง
- อาจมีเศษอาหารติดในรู ทำให้เกิดกลิ่นปาก
2.ฟันแตกถึงรากฟัน
ฟันที่แตกจนถึงรากมักมีอาการเจ็บปวดรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อเคี้ยวอาหาร หรือเมื่อสัมผัสกับความร้อนและความเย็น บางครั้งอาจมีการติดเชื้อที่รากฟันซึ่งส่งผลให้เกิดหนองและกลิ่นไม่พึงประสงค์ อาการเหล่านี้อาจลุกลามจนทำให้เหงือกบวมและมีหนองไหลออกมาได้ ฟันที่แตกถึงรากมักไม่สามารถรักษาได้ และจำเป็นต้องถอนออกเพื่อป้องกันการลุกลามของเชื้อโรค
ฟันแตกถึงรากฟัน อาการ:
- เจ็บปวดรุนแรง โดยเฉพาะขณะเคี้ยวหรือสัมผัสกับความร้อน/เย็น
- อาจมีเหงือกบวม มีหนอง หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์จากการติดเชื้อที่รากฟัน
3.ฟันหน้าแตก
ฟันหน้าแตกมีสาเหตุหลักๆ จากการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การหกล้ม การกระแทก หรือการกัดของแข็ง อาการอาจมีตั้งแต่รอยร้าวเล็กๆ จนถึงแตกเสียหายลึกถึงโพรงประสาท การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรง เช่น ขัดแต่งฟัน อุดฟัน วีเนียร์ หรือครอบฟัน หากเสียหายหนักอาจต้องถอนและใส่รากเทียม การป้องกันทำได้โดยหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงและใช้อุปกรณ์ป้องกัน หากฟันหน้าแตก
ฟันหน้าแตก อาการ:
- รอยร้าวเล็กๆ อาจไม่มีอาการชัดเจน แต่หากแตกลึกถึงโพรงประสาท อาจมีอาการเจ็บปวดและไวต่ออุณหภูมิ
- หากฟันแตกออกมาเป็นชิ้น อาจมีขอบคมที่ทำให้บาดลิ้นหรือกระพุ้งแก้ม
4.ฟันแตกเหงือกบวม
ฟันแตกที่มาพร้อมกับเหงือกบวมมักเกิดจากการติดเชื้อที่รากฟันหรือบริเวณรอบๆ ฟันที่แตก การบวมของเหงือกเป็นสัญญาณของการอักเสบหรือมีหนองสะสมใต้เหงือก ซึ่งมักเกิดจากแบคทีเรียที่เข้าสู่โพรงฟันผ่านรอยแตก
ฟันแตกเหงือกบวม อาการ:
- เหงือกบวมแดง บางครั้งอาจมีหนองไหลออกมา
- เจ็บปวดบริเวณฟันและเหงือก โดยเฉพาะขณะเคี้ยวอาหาร
- มีกลิ่นปากหรือรสชาติแปลกในปาก
- อาจมีอาการไวต่อความร้อนหรือเย็น
5.ฟันแตกครึ่ง
ฟันแตกครึ่งหมายถึงฟันที่มีรอยแตกที่ลึกและแยกออกเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน สภาพนี้มักเกิดจากแรงกระแทกอย่างรุนแรงหรือฟันที่อ่อนแอ เช่น ฟันที่ผ่านการรักษารากฟันมาก่อน ฟันแตกครึ่งสามารถเกิดได้ทั้งฟันกรามและฟันหน้า โดยเฉพาะฟันที่รับแรงกัดหรือเคี้ยวเป็นประจำ
ฟันแตกครึ่ง อาการ:
- เจ็บปวดรุนแรงเมื่อกัดหรือเคี้ยวอาหาร
- ฟันไวต่อความร้อนหรือเย็น หากรอยแตกถึงโพรงประสาท
- มีเลือดออกหรือการอักเสบของเหงือกรอบฟัน
- ฟันอาจโยกหรือแตกแยกเป็นชิ้นที่สามารถมองเห็นได้
6.ฟันแตกเลือดออก
ฟันแตกที่มีเลือดออกมักเกิดจากการที่ฟันได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง จนทำให้โครงสร้างฟันเสียหายและเนื้อเยื่อบริเวณรอบฟัน เช่น เหงือกหรือเส้นเลือดฝอยในโพรงประสาทฟัน ได้รับความเสียหาย อาจพบในกรณีที่ฟันแตกถึงโพรงประสาทหรือรากฟัน
ฟันแตกเลือดออก อาการ:
- มีเลือดออกบริเวณรอยแตกหรือรอบเหงือก
- เจ็บปวดมากเมื่อเคี้ยวอาหารหรือสัมผัสกับฟันที่แตก
- เหงือกรอบฟันอาจบวมแดงและไวต่อการสัมผัส
- หากรอยแตกถึงโพรงประสาท อาจมีอาการไวต่อความร้อน/เย็นอย่างรุนแรง
7.ฟันแตกเหลือแต่ตอ
ฟันที่แตกเหลือแต่ตอ คือฟันส่วนใหญ่แตกออกจนเหลือเพียงฐานหรือรากฟันที่ยังติดอยู่ในเหงือก ลักษณะนี้มักเกิดในกรณีที่ฟันเสียหายรุนแรงจากการผุหรือการกระแทก และไม่สามารถใช้งานได้อย่างปกติ
ฟันแตกเหลือแต่ตอ อาการ:
- เหงือกรอบตอฟันอาจบวม แดง หรือมีการอักเสบ
- รู้สึกเจ็บปวดหรือเสียวฟัน โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสบริเวณตอหรือเคี้ยวอาหาร
- หากโพรงประสาทฟันเปิด อาจไวต่อความร้อน/เย็น หรือมีเลือดออกและหนองไหล
วิธีรักษาฟันแตก
การรักษาฟันแตกขึ้นอยู่กับลักษณะและความรุนแรงของรอยแตก ซึ่งทันตแพทย์จะประเมินจากการตรวจร่างกายและเอ็กซเรย์ วิธีรักษามีดังนี้:
1. อุดฟัน (Dental Filling): เหมาะสำหรับฟันแตกเป็นรูขนาดเล็กที่ยังไม่ลุกลามถึงโพรงประสาทฟัน
2. ครอบฟัน (Dental Crown): เหมาะสำหรับฟันที่แตกเสียหายมาก หรือฟันที่อุดไม่สามารถรับแรงกัดได้
3. รักษารากฟัน (Root Canal Treatment): เหมาะสำหรับฟันแตกที่ลึกถึงโพรงประสาทและมีอาการเจ็บปวด หรือเกิดการติดเชื้อ
4. ถอนฟัน (Tooth Extraction): เหมาะสำหรับฟันที่แตกเสียหายรุนแรงจนไม่สามารถรักษาได้ หรือมีการติดเชื้อที่รากฟัน
5. ใส่รากฟันเทียม (Dental Implant): เหมาะสำหรับการทดแทนฟันที่สูญเสียจากการถอนฟันที่แตก
6. วีเนียร์ (Veneer): เหมาะสำหรับฟันหน้าแตกที่ต้องการคืนความสวยงามและการใช้งาน
7. ผ่าตัดเหงือก (Gum Surgery): เหมาะสำหรับฟันแตกที่มีการติดเชื้อจนเกิดหนองสะสมบริเวณเหงือก
วิธีป้องกันฟันแตก
1. หลีกเลี่ยงการกัดหรือเคี้ยวของแข็ง
- หลีกเลี่ยงการกัดน้ำแข็ง กระดูก ลูกอมแข็ง หรืออาหารที่มีความแข็งและเหนียว
- อย่าใช้ฟันกัดของแข็ง เช่น ฝาขวด ปากกา หรือสิ่งของอื่นๆ
2. ดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ
- แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์
- ใช้ไหมขัดฟันเพื่อทำความสะอาดซอกฟัน ลดโอกาสเกิดฟันผุที่อาจทำให้ฟันอ่อนแอ
- ตรวจสุขภาพฟันและขูดหินปูนเป็นประจำทุก 6 เดือน
3. ใส่อุปกรณ์ป้องกันในกิจกรรมเสี่ยง
- ใส่ เฝือกสบฟัน (Mouthguard) หากเล่นกีฬาที่มีการปะทะ เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล หรือมวย
- ใช้ Nightguard หากมีพฤติกรรมกัดฟันหรือเคี้ยวฟันขณะนอนหลับ
4. หลีกเลี่ยงการทานอาหารร้อนสลับเย็นฉับพลัน
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร้อนและเย็นสลับกัน เช่น ซุปและน้ำแข็งในเวลาเดียวกัน
- การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็วอาจทำให้ฟันแตกร้าวได้
5. รักษาฟันที่มีความเสี่ยง
- ซ่อมแซมฟันที่มีการอุดขนาดใหญ่หรือฟันที่อ่อนแอด้วยการครอบฟัน
- รักษาฟันผุแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันโครงสร้างฟันอ่อนแอและแตกง่าย
6. พบทันตแพทย์ทันทีเมื่อมีปัญหา
- หากมีฟันร้าวหรือมีอาการเสียวฟัน ควรรีบปรึกษาทันตแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหาก่อนที่ฟันจะเสียหายเพิ่มเติม
- การตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาที่นำไปสู่ฟันแตก
ค่าใช้จ่ายในการรักษาฟันแตก ราคาเท่าไหร่?
ฟันแตกเป็นรู: รักษาได้ด้วยการอุดฟันในราคา 1,000-2,800 บาท หากเสียหายมาก อาจต้องครอบฟัน 15,000-18,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาฟันแตกแบบอื่นๆขึ้นอยู่กับลักษณะของรอยแตก ความรุนแรง และวิธีการรักษา ดังนี้:
การรักษา | ราคา (บาท) |
อุดฟัน | 1,000–2,800 |
ครอบฟัน | 15,000–18,000 |
รักษารากฟัน | 8,000–15,000 |
ถอนฟัน | 1,500–3,000 |
ใส่รากฟันเทียม | 50,000–80,000 |
วีเนียร์ | 12,000–18,000 |
ผ่าตัดเหงือก | 5,000–10,000 |
บทสรุป
ฟันแตกพบได้ในทุกวัย หากไม่รักษา อาจกระทบสุขภาพช่องปากรุนแรง หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา ฟันแตกสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การกัดหรือเคี้ยวของแข็ง การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในช่องปากอย่างฉับพลัน หรืออุบัติเหตุต่างๆ การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยแตก ตั้งแต่การอุดฟัน ครอบฟัน รักษารากฟัน ไปจนถึงการถอนฟันและใส่รากฟันเทียม สำหรับการป้องกันฟันแตก ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง ดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ และพบทันตแพทย์ทันทีเมื่อมีปัญหา การดูแลและรักษาอย่างทันท่วงทีไม่เพียงช่วยให้ฟันกลับมาใช้งานได้ดี แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพช่องปากในระยะยาวอีกด้วย
FAQ:คำถามเกี่ยวกับฟันแตก
ฟันแตกสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากได้ หากไม่ได้รับการรักษา อาจเกิดการติดเชื้อที่โพรงประสาทฟัน หรือรากฟันลุกลามไปยังกระดูกขากรรไกร ดังนั้นควรรีบปรึกษาทันตแพทย์เมื่อมีอาการฟันแตก
ค่าใช้จ่ายในการรักษาขึ้นอยู่กับวิธีการและความรุนแรง เช่น อุดฟันเริ่มต้นที่ 1,000–2,800 บาท ครอบฟัน 15,000–18,000 บาท และรากฟันเทียมประมาณ 50,000–80,000 บาท
ไม่ควรปล่อยฟันเป็นรูไว้โดยไม่รักษา เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ ลุกลามไปยังรากฟันและเหงือก หากปล่อยนานอาจต้องถอนฟันในที่สุด
ฟันที่แตกถึงราก หรือมีการติดเชื้อรุนแรงจนไม่สามารถรักษาได้ด้วยการครอบฟันหรือรักษารากฟัน จำเป็นต้องถอนเพื่อป้องกันการลุกลามของเชื้อโรค
หากฟันกรามแตกเป็นโพรง ควรปรึกษาทันตแพทย์ทันที โดยอาจรักษาด้วยการอุดฟัน ครอบฟัน หรือรักษารากฟัน หากโพรงลึกมากจนโครงสร้างฟันไม่สามารถรองรับได้
หากมีอาการปวดมาก ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารบริเวณนั้น และรีบพบทันตแพทย์เพื่อตรวจและรักษา อาจจำเป็นต้องอุดฟันหรือรักษารากฟันเพื่อบรรเทาอาการ
สำหรับฟันแตกครึ่งซี่ขึ้นอยู่กับความเสียหาย หากโครงสร้างฟันยังแข็งแรงพอ อาจใช้การอุดหรือครอบฟัน แต่หากเสียหายมากอาจต้องรักษารากฟันหรือถอนฟัน
ฟันกรามแตกครึ่งอาจรักษาด้วยการครอบฟัน หากโครงสร้างฟันยังแข็งแรง หรือถอนฟันในกรณีที่โครงสร้างฟันเสียหายมาก