การจัดฟันเป็นการแก้ปัญหาการเรียงตัวของฟันเช่น ฟันซ้อนเก ฟันสบลึก ฟันสบเปิด ฟันเหยิน ฟันห่าง และปัญหาด้านการบดเคี้ยว การจัดฟัน เป็นการรักษาเพื่อให้มีการสบฟันที่ดีขึ้น รวมทั้งลดอัตราเสี่ยงในการเกิดฟันผุหรือโรคเหงือกอันเนื่องมาจากความลำบากในการทำความสะอาดฟันและเหงือก ในบริเวณที่ฟันเรียงตัวผิดปกติซึ่งนำไปสู่การลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุและโรคเหงือกที่มักเกิดจากความยากลำบากในการทำความสะอาดฟันและเหงือกในบริเวณที่ฟันเรียงตัวผิดปกติ ไม่เพียงช่วยให้คุณมีรอยยิ้มที่สวยงาม แต่ยังช่วยในการปรับปรุงสุขภาพช่องปากและรักษาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย
เครื่องมือการจัดฟัน มีกี่แบบ
เครื่องมือจัดฟันนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักก็คือ เครื่องมือจัดฟัน แบบติดแน่น และเครื่องมือจัดฟัน แบบถอดได้ โดยแต่ละชนิดนั้นก็จะมีวิธีการ คุณสมบัติ รวมถึงวัสดุที่ใช้ในการรักษาแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาและการวางแผนของทันตแพทย์ และข้อจำกัดของคนไข้แต่ละท่านด้วย
1.เครื่องมือจัดฟัน แบบติดแน่น
เครื่องมือจัดฟัน แบบติดแน่น เป็นการติดเครื่องมือ จัดฟัน หรือที่เรียกว่าแบร็คเก็ตลงบนตัวฟัน แต่ละแบร็คเก็ตจะถูกเชื่อมต่อกันด้วยลวดจัดฟัน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการให้แรงกดต่อฟัน แรงนี้ช่วยในการเคลื่อนย้ายฟันไปยังตำแหน่งที่ต้องการตามแผนการรักษา ทันตแพทย์จะปรับลวดเหล่านี้ในแต่ละครั้งที่มีการนัดตรวจ เพื่อค่อยๆ ปรับตำแหน่งของฟันให้เข้าที่
การใช้เครื่องมือ จัดฟัน ชนิดติดแน่นมีข้อดีหลายประการ รวมถึงความสามารถในการจัดการกับปัญหาฟันที่ซับซ้อนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเทคนิคการจัดฟันอื่นๆ แต่ข้อเสียคือมันอาจเห็นได้ชัดเจนและต้องการการดูแลรักษาความสะอาดอย่างละเอียดรอบคอบเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากเช่น ฟันผุและโรคเหงือก
การ จัดฟัน แบบโลหะ
จัดฟันแบบโลหะ หรือ จัดฟันเหล็ก (Metal Braces) เป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จัดฟันแบบติดเครื่องมือ ส่วนมากวัยรุ่นและคนทั่วไปจะเลือกการจัดฟันเหล็ก โดยปัจจุบันการจัดฟันโลหะได้มีการพัฒนาขนาดของวัสดุที่ใช้ให้มีขนาดเล็กลง คุณภาพสูงขึ้น และให้ความรู้สึกใส่สบายมากขึ้น
สามารถเปลี่ยนสีสันยาง (O-ring) ที่ผู้รับบริการสามารถเลือกสีที่ชอบเปลี่ยนได้ทุกเดือน การจัดฟันติดแน่น จะมีการปรับเครื่องมือทุกๆ เดือน คุณหมอจัดฟันจะปรับเหล็กจัดฟันทุกๆ 4-6 สัปดาห์ เพื่อให้ฟันเคลื่อนไปยังตำแหน่งที่เหมาะ ถือว่าเป็นการจัดฟันที่ราคาน้อยกว่าชนิดอื่นๆ
ขั้นตอนการจัดฟันแบบโลหะ
- ครั้งแรกคือการมาตรวจและประเมิน มีการบันทึกเวชระเบียนรวมถึงเอกซ์เรย์แบบพาโนรามาและเอ็กซ์เรย์แบบ cephalometric และพิมพ์ฟันเพื่อเป็นแบบจำลองฟัน โดยจะมีการทำแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคนไข้ และจากนั้นทันตแพทย์จะตรวจประเมินเพื่อส่งคนไข้ทำการเคลียร์ช่องปาก ก่อนติดเครื่องมือจัดฟัน
- เคลียร์ช่องปากก่อนติดเครื่องมือจัดฟัน การรักษาก่อนการจัดฟันที่มีความจำเป็น เช่น ถอนฟัน รักษาเหงือกหรือขูดหินปูน
- การติดเครื่องมือจัดฟันโลหะ เมื่อทำการรักษาทางทันตกรรมก่อนจัดฟันเสร็จสิ้นแล้ว จะเป็นการติดเครื่องมือจัดฟันลงบนฟันของคนไข้
- คนไข้ต้องเข้ามาปรับเครื่องมือทุกๆ 4-6 สัปดาห์
- ใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน (Retainer) หลังจากที่ได้รับการถอดเครื่องมือจัดฟันเพื่อป้องกันการล้มหรือการเกของฟัน
ข้อดี
- ความทนทาน : แบร็คเก็ตโลหะมีความทนทานสูงและไม่บิดเบือนง่าย
- คุณภาพการจัดฟัน : มีความแม่นยำสูงในการจัดการกับปัญหาการเรียงตัวของฟันต่างๆ
- ค่าใช้จ่าย : มักมีราคาถูกกว่าวิธีการจัดฟันอื่นๆ เช่น จัดฟันแบบดามอนหรือจัดฟันแบบใส
ข้อเสีย
- เห็นได้ชัดเจน : แบร็คเก็ตโลหะมีสีที่เด่นชัดบนฟัน ซึ่งอาจทำให้บางคนรู้สึกลำบากใจ
- ความไม่สะดวก : อาจทำให้รู้สึกไม่สบายหรือมีแผลในช่องปากในช่วงแรกของการจัดฟัน
ดูเเลสุขภาพฟันหลังจากจัดฟันแบบโลหะอย่างไร
เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากลิ่นปาก ฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ หรือเป็นแผลในช่องปากหลังจากจัดฟันเหล็ก หรือจัดฟันโลหะ ควรดูแลสุขภาพฟันดังนี้
- เลือกใช้แปรงสีฟันสำหรับผู้จัดฟันโดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถทำความสะอาดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามเครื่องมือจัดฟันได้สะดวกขึ้น
- แปรงฟันหลังมื้ออาหารทุกครั้ง และควรใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย
- หลังแปรงฟันควรใช้น้ำยาบ้วนปาก หรืออมน้ำเกลือหลังแปรงฟัน เพื่อช่วยยับยั้งแบคทีเรียในช่องปาก ฆ่าเชื้อโรค และรักษาแผลร้อนในในช่องปาก
- ควรเลือกใช้ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ช่วยป้องกันฟันผุ
- หมั่นตรวจเช็กสุขภาพฟันทุก 6 เดือน และขูดหินปูนร่วมด้วย
การจัดฟัน แบบดามอน
จัดฟันแบบดามอน (Damon Braces) เป็นมากกว่าการจัดฟันธรรมดา จัดฟันดามอน เป็นนวัตกรรมการจัดฟันสมัยใหม่ ที่มีจุดเด่นในการทำงานของเครื่องมือจัดฟัน ออกแบบมาให้คนไข้รู้สึกสบายมากขึ้น เจ็บน้อยลง
โดยระบบของการจัดฟันแบบดามอน เป็นการผสมผสาน ระหว่าง Self-ligating brackets, Hi-tech arch wires เครื่องมือสมัยใหม่ ที่ช่วยเคลื่อนฟันได้เร็วขึ้น และด้วยความเรียบลื่นของวัสดุนี้ จะช่วยให้คนไข้รู้สึกระคายเคืองน้อยลง อีกทั้งยังมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น
Damon ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่า สามารถช่วยย่นระยะเวลาการรักษาให้สั้นลง มีประสิทธิภาพสูง ไม่ต้องมาพบคุณหมอจัดฟันทุกเดือน เจ็บน้อยลงเนื่องจากแรงต้านทาน และแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นจากการจัดฟันลดน้อยลง และสร้างความสะดวกสบายให้กับคนไข้มากขึ้น เพราะการระคายเคืองปากที่ลดลง เรียกได้ว่า ฟันสวยเร็วขึ้น แต่เจ็บน้อยลงนั่นเอง
สามารถจัดฟันเคสที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย ช่วยขจัดความยุ่งยากในการมัดลวดจัดฟันด้วยยางจัดฟันที่เสื่อมสภาพง่าย หรือลวดมัดฟันที่มักทิ่มแทงเนื้อเยื่อรอบข้าง ลดแรงเสียดทาน สามารถบังคับการเคลื่อนตัวของฟันได้คล่องตัว ทำให้สามารถเคลื่อนตัวฟันไปตำแหน่งที่ต้องการได้เร็วกว่าการ จัดฟัน ทั่วไป โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปพบทันตแพทย์ทุก ๆ เดือน
อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดฟัน แบบดามอนมีดังนี้
- ลวดเหล็ก
- เหล็กหรือเซรามิกที่ติดกับผิวฟันมีลักษณะพิเศษคล้ายบานประตู เพื่อตรึงตำแหน่งลวดเหล็กไว้
ขั้นตอนการจัดฟัน แบบดามอน
- ทันตแพทย์จัดฟัน Xray เพื่อวิเคราะห์ ตรวจและประเมินสภาพช่องปาก เพื่อวางแผนการรักษา
- พิมพ์ปากเพื่อเตรียมอุปกรณ์การจัดฟัน
- ทันตแพทย์จัดฟันจะทำการติดเครื่องมือจัดฟันตามแนวทางแผนการรักษา
- คนไข้กลับมาตรวจสภาพฟันและการปรับเครื่องมือทุกๆ 6- 8 สัปดาห์
- ใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน (Retainer) หลังจากที่ได้รับการถอดเครื่องมือจัดฟันเพื่อป้องกันการล้มหรือการเกของฟัน
จัดฟัน Damon ดีกว่าการจัดฟันแบบอื่นอย่างไร?
จัดฟันแบบ Damon เป็นการจัดฟันด้วยเครื่องมือที่ออกแบบโดยนำข้อดีของเครื่องมือจัดฟันแบบโลหะ และเครื่องมือจัดฟันแบบเซรามิก มารวมกันโดยได้ออกแบบเครื่องมือที่มี แรงเสียดทานน้อย ทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น ช่วยลดระยะเวลาการรักษาทางทันตกรรม จัดฟัน
แรงเสียดทานต่ำ
จัดฟันแบบ Damon ใช้แบร็คเก็ตที่ออกแบบมาเพื่อให้ลวดเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระผ่านแบร็คเก็ต ลดแรงเสียดทานระหว่างลวดกับแบร็คเก็ต ผลที่ตามมาคือการจัดฟันที่เร็วขึ้นและลดความไม่สบายให้กับผู้ป่วย การลดแรงเสียดทานช่วยให้ฟันเคลื่อนที่ได้ง่ายและเร็วขึ้น และยังต้องการแรงกดน้อยลงจากทันตแพทย์ในการปรับปรุงการจัดฟัน
ไม่ต้องใช้ยางรัด
จัดฟันแบบ Damon ไม่ต้องใช้ยางรัดเพื่อยึดลวดกับแบร็คเก็ต ลดจุดสะสมของแบคทีเรียและง่ายต่อการทำความสะอาดช่องปาก นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคเหงือกและฟันผุ เนื่องจากการทำความสะอาดที่ง่ายดายกว่าการจัดฟันที่มีการใช้ยางรัด
ความสบาย
เนื่องจากลดแรงเสียดทานและใช้แรงกดน้อยลงในการเคลื่อนฟัน ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกสบายมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการจัดฟันแบบดั้งเดิม นี่คือประโยชน์ที่สำคัญในการเลือกในการจัดฟันแบบ Damon เพราะมันส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในระหว่างการรักษา
1.เครื่องมือจัดฟัน แบบถอดได้
เครื่องมือจัดฟันชนิดถอดได้ เป็นเครื่องมือจัดฟันที่ไม่ต้องยึดเครื่องมือบนผิวฟัน และคนไข้สามารถถอด เข้าออกได้ สามารถทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ง่าย และไม่ต้องกังวลเรื่องเครื่องมืดหลุด เป็นเครื่องมือในการจัดฟันที่ถือว่าให้การจัดฟันดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
การจัดฟันแบบใส Invisalign
จัดฟันใส Invisalign หรือ จัดฟันแบบใส เครื่องมือแบบใหม่ในการจัดฟัน ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟัน ให้มีความสวยงามและเหมาะสมได้โดยไม่ต้องติดเครื่องมือ การจัดฟันชนิดนี้สามารถถอดออกได้เมื่อต้องการ และมีความใส โดยทันตแพทย์จะทำการเปลี่ยนเครื่องมือ ให้ตามแผนการรักษา
Invisalign คือการจัดฟันแบบพลาสติกใส ซึ่งออกแบบมาพิเศษตามรูปฟันแต่ละคนด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยการใช้เครื่องมือจัดฟันที่เป็นแผ่นโพลีเมอร์ บางๆใสๆ มาใส่ครอบบนฟันเพื่อให้ฟันเคลื่อนไปในตำแหน่งที่ต้องการ ปกติฟันจะเคลื่อนประมาณ 0.25 มิลลิเมตร ต่อ aligner (aligner คือแผ่นใสที่ใช้จัดฟัน) หนึ่ง aligner จะใส่ประมาณ7-14 วัน จากนั้นจะเปลี่ยน aligner ชุดใหม่จนครบเซตทั้งหมดตามแผนการรักษา โดยแต่ละแผ่นใสจะควบคุมแรงกดฟันและดันฟันให้ฟันค่อยๆเคลื่อนที่ขยับไปตามแผนการรักษาที่ได้วางไว้
วัสดุที่ใช้ SmartTrack®
อุปกรณ์จัดฟันแบบใสหน้าตาอาจเหมือนกันแต่มันไม่เหมือนกัน Invisalign เท่านั้นที่ผลิตจากวัสดุ SmartTrack ที่จะทำให้คุณรู้สึกสบายเวลาสวมใส่ให้แรงที่นุ่มนวลและสม่ำเสมอ
ขั้นตอนการจัดฟันแบบใส
- ขั้นตอนที่ 1 พบทันตแพทย์และถ่ายภาพเอ็กซเรย์ พิมพ์ฟัน เพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดแผนการรักษาจัดฟันใสในคนไข้แต่ราย เนื่องจากคนไข้แต่ละรายมีลักษณะฟันไม่เหมือนกัน ดังนั้นการวางแผนการรักษาก็จะมีความแตกต่างกัน
- ขั้นตอนที่ 2 ทันตแพทย์จัดส่งแบบพิมพ์ฟัน และข้อมูลของคนไข้ ไปยังห้องแลปอินวิสไลน์ที่ประเทศสหรัสอเมริกา(USA) เพื่อวางแผนการรักษาในระบบคอมพิวเตอร์
- ขั้นตอนที่ 3 ห้องแลปอินวิสไลน์ ที่ประเทศสหรัสอเมริกา(USA) ส่งแผนการรักษาให้คุณหมอ ในขั้นตอนนี้คุณหมอจะนัดคนไข้เข้ามาแจ้งแผนการรักษา(Clin check) ซึ่งคนไข้สามารถเห็นลักษณะการเรียงตัวของฟันทั้งระหว่างและหลังการรักษา และแจ้งแลปอินวิสไลน์ให้จัดทำเครื่องมือจัดฟันใส
- ขั้นตอนที่ 4 คุณหมอนัดเข้ามารับชุดเครื่องมือจัดฟันใส (อินวิสไลน์) ที่ผลิตขึ้นมาตามแผนการรักษาของคนไข้แต่ราย
- ขั้นตอนที่ 5 คุณหมอนัดประมาณ 2-3 เดือนเพื่อดูลักษณะการเคลื่อนฟันและรับชุดเครื่องมือจัดฟันใสชุดถัดไป เปลี่ยนเครื่องมือตามที่คุณหมอแนะนำ
- ขั้นตอนที่ 6 หลังจากจัดฟันใสเสร็จเรียบร้อยแล้ว คนไข้จะต้องใช้รีเทรนเนอร์ตามที่คุณหมอแนะนำ เพื่อคงสภาพฟันไม่ให้กลับมาซ้อนเกเหมือนก่อนจัดฟัน
ข้อจำกัดของการจัดฟันใส Invisalign
คนไข้ต้องมีวินัยในการใส่แผ่นใส Invisalign คือ 1 วันต้องใส่ 22 ชั่วโมง สามารถถอดออกได้เฉพาะตอนรับประทานอาหาร ตอนแปรงฟัน เท่านั้น
ข้อดีของการจัดฟันใส Invisalign
- ทำความสะอาดได้ง่าย เพราะการไม่มีเหล็กจัดฟันจะทำให้เศษอาหารติดน้อยกว่า
- การระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในช่องปากน้อยกว่า เพราะไม่ต้องทนกับเหล็กจัดฟันทิ่มปาก
- มีความสวยงามเวลายิ้มหรือพูดคุย แทบไม่เห็นว่าใส่เครื่องมืออยู่
- ไม่ต้องมาพบทันตแพทย์บ่อย เหมาะสำหรับคนไม่มีเวลา อยู่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ
- ทานอาหารได้สะดวก หลากหลาย ไม่ต้องกังวลว่าเหล็กจะหลุดหากทานอาหารแข็ง
- เจ็บน้อยเมื่อเทียบกับการใส่เหล็กจัดฟัน อาจมีความรู้สึกตึงๆบ้างหลังเปลี่ยนแผ่นใสแต่ละชุด
วิธีการเลือกเครื่องมือจัดฟันให้เหมาะสม
การจัดฟันมีกี่แบบ เป็นคำถามที่คนจัดฟันครั้งแรก มักสงสัย เมื่อทราบแล้วว่ามีแบบไหนบ้าง การตัดสินใจเลือกให้เหมาะสมก็เป็นส่วนที่สำคัญ ซึ่งการจัดฟันแต่ละชนิดนั้นก็มีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาและข้อจำกัดในการรักษาของคนไข้ในแต่ละบุคคล
การจัดฟันแบบโลหะ : สามารถจัดได้ทุกเพศ ทุกวัย สามารถใช้ในการจัดฟันได้ในทุกรูปแบบ มีสีสันของยางที่มีให้เลือกใช้ได้หลากหลาย ต้องเข้ามาปรับเครื่องมือกับทันตแพทย์ทุกๆ 4-6 สัปดาห์
การจัดฟันแบบดามอน : เหมาะสำหรับคนไข้ที่ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาพบทันตแพทย์ทุกๆเดือน โดยตัวเครื่องมือที่เป็นระบบทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น ช่วยลดระยะเวลาการรักษาให้เร็วขึ้น ต้องเข้ามาปรับเครื่องมือกับทันตแพทย์ทุก ๆ 2 เดือน
การจัดฟันแบบใส Invisalign : การจัดฟันใสแบบถอดได้ เหมาะกับคนไข้ที่ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาพบทันตแพทย์บ่อยๆ และไม่ต้องการให้เห็นเครื่องมือจัดฟันชัด มีความเป็นธรรมชาติเหมือนไม่ได้จัด เหมาะสำหรับคนไม่มีเวลา อยู่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ
ข้อสรุป จัดฟันมีกี่แบบ
สรุปแล้ว การจัดฟันจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ เครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่น และเครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ โดยแต่ละประเภทก็แตกแยกย่อยออกไปอีกหลากหลายชนิด ทางที่ดีที่สุดคือการเข้ารับคำแนะนำจากทันตแพทย์
การจัดฟัน ไม่ว่าจะด้วยรูปแบบไหนก็ตาม ควรทำโดยทันตแพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญด้านจัดฟันโดยตรง เนื่องจากคนไข้จะต้องพบกับทันตแพทย์ในทุกๆเดือน และต้องทำการรักษาในระยะเวลาหลายปี รวมถึงควรทำการรักษาในคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ คลินิก Digital Dental Center ยินดีและพร้อมให้บริการ เปลี่ยนรอยยิ้มใหม่ให้สดใสยิ่งกว่าเดิม
ปรึกษาปัญหาด้านทันตกรรม
เวลาทำการ: เปิดให้บริการทุกวัน 10.00-20.00 น.
โทร : 094-679-2939 | 038-199-367
Facebook : Digital Dental Center Pattaya
ไลน์ : @digitaldentistry
Youtube : Digital Dental Center Pattaya
Tiktok : digitaldentalpattaya