ปวดฟันทำยังไง รวมวิธีรักษา อาการปวดฟัน

อาการ ปวด ฟัน เป็นปัญหาที่ทุกคนเคยเจอและเป็นสิ่งกวนใจมากๆ การที่เราสามารถทราบสาเหตุรวมถึงวิธีป้องกัน และรักษา อาการปวดฟัน เป็นอาการที่หลายคนต้องเผชิญ ไม่เพียงแต่สร้างความไม่สบายแต่ยังส่งผลต่อการกิน การนอน และคุณภาพชีวิตโดยรวม การรับรู้และการรักษาอย่างทันท่วงทีสามารถช่วยลดความรุนแรงและป้องกันปัญหาที่ร้ายแรงในอนาคตได้. ปวดฟัน ตั้งแต่เนิ่นๆ จะเป็นเรื่องดีไม่น้อยวันนี้ทางเราจะมาแนะนำวีธีรักษาอาการปวดเบื้องต้นให้ทุกคนทราบ

 สาเหตุ การปวดฟัน

สาเหตุการปวดฟันคือ อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ฟันผุ การติดเชื้อในรากฟัน หรือการอักเสบของเหงือก การรู้จักประเภทและสาเหตุของ อาการปวดฟัน สามารถช่วยในการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมได้.

ยารักษาอาการ ปวด ฟัน

การใช้ยาแก้ปวดเป็นหนึ่งในวิธีที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการบรรเทา อาการปวดฟัน ชั่วคราว ก่อนที่จะได้รับการรักษาจากทันตแพทย์ สองชนิดของยาแก้ปวดที่มักใช้คือ ไอบูโพรเฟนและพาราเซตามอล แต่ละชนิดมีคุณสมบัติและข้อควรระวังที่แตกต่างกัน:

ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen)

  • คุณสมบัติ: ไอบูโพรเฟนเป็นยาแก้ปวดที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบได้ดี
  • ข้อควรระวัง: ควรหลีกเลี่ยงการใช้ไอบูโพรเฟนหากมีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร, โรคไต, หรือหากคุณมีประวัติการแพ้ยานี้

พาราเซตามอล (Paracetamol)

  • คุณสมบัติ: พาราเซตามอลเป็นยาแก้ปวดที่มีประสิทธิภาพในการลดอาการปวดโดยไม่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ มีผลข้างเคียงน้อยเมื่อเทียบกับไอบูโพรเฟน
  • ข้อควรระวัง: ควรระมัดระวังไม่ให้ใช้ยาเกินขนาด เนื่องจากอาจส่งผลเสียต่อตับ

ข้อควรระวังในการใช้ยาแก้ปวด

  • ปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยาอย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงและอันตรายจากการใช้ยาเกินขนาด
  • ไม่ควรใช้ยาเหล่านี้เป็นวิธีการรักษา อาการปวดฟัน ในระยะยาว หาก อาการ ปวดฟันไม่ดีขึ้นหรือมีอาการปวดรุนแรง ควรปรึกษาทันตแพทย์โดยเร็ว
  • หลีกเลี่ยงการใช้แอลกอฮอล์ ในขณะที่ใช้ยาเหล่านี้ เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียง

*การใช้ยาแก้ปวดสามารถช่วยบรรเทาอาการ ปวดฟัน ได้ชั่วคราว

งดอาหารกระตุ้นการปวดฟัน

การหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่อาจทำให้เกิดหรือเพิ่มความรุนแรงของ อาการปวดฟัน เป็นสิ่งสำคัญในช่วงที่ฟันอ่อนไหวหรือมีปัญหาสุขภาพช่องปาก. การรับประทานอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยลดความรู้สึกไม่สบายและสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูสภาพฟัน. นี่คือรายการอาหารและเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยงและแนะนำในช่วงที่มี อาการ ปวดฟัน

อาหารและเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยง

  • อาหารที่มีน้ำตาลสูง: ขนมหวาน, ช็อคโกแลต, ขนมปังหวาน และเครื่องดื่มหวาน สามารถเพิ่มความเสี่ยงของฟันผุและกระตุ้นอาการปวด
  • อาหารที่มีความแข็ง: ของกรอบ อย่างเช่น ถั่ว, ขนมกรุบกรอบ อาจทำให้ฟันที่เปราะบางหรือมีปัญหาแตกหรือหักได้
  • อาหารร้อนหรือเย็นจัด: เครื่องดื่มหรืออาหารที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำมาก อาจทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดในฟันที่มีความอ่อนไหว
  • อาหารที่มีกรดสูง: ผลไม้บางชนิด เช่น ส้มและมะเขือเทศ, และเครื่องดื่มเช่น กาแฟและไวน์ สามารถทำให้ฟันที่มีการผุกร่อนเจ็บปวดมากขึ้น

อาหารและเครื่องดื่มที่แนะนำ

  • อาหารอุ่นและนุ่ม: ซุป, โจ๊ก, หรือพาสต้าที่ไม่มีรสจัด สามารถรับประทานได้ง่ายและไม่ทำให้ฟันเจ็บปวด
  • ผักและผลไม้นุ่ม: อะโวคาโด, กล้วย หรือแครอทต้ม ที่มีความอ่อนนุ่มและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
  • โปรตีนที่ปรุงสุกอย่างเต็มที่: เช่น ปลา, ไก่ต้มหรือนึ่ง

หากมีอาการเหงือกบวม หรือเป็นไข้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที

อาการเหงือกบวมและการมีไข้เป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากอาจเป็นตัวบ่งชี้ถึงการติดเชื้อหรือปัญหาสุขภาพช่องปากที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ภาวะเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับหลายสาเหตุ รวมถึง:

  • โรคเหงือก: การอักเสบของเหงือกที่อาจเกิดจากพลัคและหินปูนที่สะสมไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างถูกต้อง
  • ฟันคุดที่ฝังอยู่: ฟันคุดที่ไม่สามารถงอกออกมาได้อย่างสมบูรณ์อาจทำให้เกิดการติดเชื้อและบวมรอบๆ พื้นที่
  • การติดเชื้อที่รากฟัน: การติดเชื้อที่เนื้อฟันหรือรากฟันสามารถนำไปสู่การมีไข้และอาการบวมได้

การรักษาอาการ ปวดฟัน

การรักษาสำหรับอาการเหงือกบวมและการมีไข้จะขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหา ซึ่งอาจรวมถึง:

  • การให้ยาปฏิชีวนะ: สำหรับการติดเชื้อเพื่อช่วยลดการติดเชื้อและอาการบวม
  • การทำความสะอาดโดยลึก: สำหรับโรคเหงือก เพื่อลดการสะสมของพลัคและหินปูน
  • การรักษาหรือถอนฟัน: สำหรับฟันคุดที่ฝังอยู่หรือฟันที่มีการติดเชื้อรุนแรง

ข้อควรระวัง

  • อย่าพยายามรักษาด้วยตนเองโดยไม่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากอาจทำให้สถานการณ์แย่ลง
  • ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือทันตแพทย์ทันทีเมื่อพบอาการเหล่านี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง

การเข้ารับการรักษาที่เหมาะสมและตรงเวลาเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากที่อาจนำไปสู่ภาวะที่รุนแรงและยากต่อการรักษา

ปฏิบัติการดูแลสุขภาพช่องปากเบื้องต้น

การดูแลรักษาสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอาการปวดฟัน เท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันโรคเหงือกและฟันผุได้ ให้ความสำคัญกับการแปรงฟันอย่างน้อยวันละสองครั้ง และการใช้ไหมขัดฟันทุกวันเพื่อลดการสะสมของคราบพลัคและเศษอาหารที่อาจนำไปสู่การเกิดฟันผุ นอกจากนี้ การเยี่ยมชมทันตแพทย์เพื่อการตรวจสุขภาพช่องปากและทำความสะอาดฟันอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน สามารถช่วยตรวจจับปัญหาต่างๆ ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาที่รุนแรง และต้องใช้การรักษาที่ซับซ้อน

บทความแนะนำการรับมือกับอาการ ปวด ฟัน ผ่านการใช้ยาแก้ปวด, หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นการปวด, และความจำเป็นในการ ปรึกษาทันตแพทย์ หากมีอาการเหงือกบวมหรือเป็นไข้ รวมทั้งการดูแลสุขภาพช่องปากเป็นประจำเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาฟันในอนาคต.

แชร์บทความ
Narongsak Chiwimahannob
Narongsak Chiwimahannob
Articles: 16